เครื่องประดับอียิปต์โบราณ (Egyptian jewelry)

ในการออกแบบเครื่องประดับแต่ละชิ้น ก่อนจะกล่าวถึงแนวทาง การออกแบบที่ใช้รูปแบบต่าง ๆ ที่เลือกไว้องค์ประกอบต่างๆที่จะนำมาใช้กับชิ้นงานนั้นก็ควรคำนึงถึงด้วย ดังนี้ คือ

  • ประเภทของวัสดุที่จะนำมาใช้ เริ่มตั้งแต่  โลหะ อโลหะ วัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้ พลาสติก หนัง เซรามิค ยาง ขนสัตว์สังเคราะห์
 เป็นต้น
  • อัญมณีที่ใช้ประดับ อินทรียวัตถุต่างๆ เช่น มุก ปะการัง เขาสัตว์ เปลือกหอย กระดองสัตว์หรือหินต่าง ๆ (Rock mineral)
  • ขั้นตอนกรรมวิธีการผลิต โดยสังเขป จะเลือกใช้อะไรบ้าง เช่น ประเภทการฝังอัญมณี, เลือกรูปทรงการเจียระไนของอัญมณีที่ต้องการ หรือแกะสลักแบบที่ต้องการ,สีสันของอัญมณีหรืออินทรีย์วัตถุหรือหินสีต่าง ๆ,พื้นผิวควรจะเป็นอย่างไร,การแกะสลักฯลฯ
  • เทคนิคต่าง ๆ ที่นำมาใช้กับชิ้นงาน เช่น การลงยา Enameling) การชุบสีของโลหะ การย้อมดำบนโลหะ เป็นต้น และถ้าขาด องค์ประกอบเหล่านี้ การออกแบบ การผลิตเครื่องประดับ ก็จะไม่เกิดขึ้น
เมื่อชิ้นงานแต่ละชิ้น ได้ออกแบบและผลิตเสร็จลุล่วงไป

นำมาคัดสรรในกลุ่มการออกแบบที่ได้แบ่งแยกไว้ตามการออกแบบเป็น 5 กลุ่มดังนี้

  1. รูปทรงเรขาคณิต(Geometric Form)
  2. รูปทรงอิสระ(Free Form)
  3. รูปทรงธรรมชาติ(Natural Form)
  4. รูปแบบที่ได้จากการทำเครื่องประดับในอดีต(Cultural and Ethnical Style)
  5. รูปทรงแห่งการผสมผสาน(Miscellaneous)

วันนี้เรามาเริ่มกันที่

เครื่องประดับอียิปต์โบราณ (Egyptian jewelry)

เป็นยุครุ่งเรื่องของการทำเครื่องประดับเลยก็ว่าได้

จากการขุดพบทางโบราณคดี และการเปิดปิรามิดต่างๆ เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ชาวอียิปต์ได้เริ่มมีการทำเครื่องประดับแล้วตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตศักราช ในอดีตผู้ที่สวมใส่เครื่องประดับคือ ฟาโรห์ และบุคคลต่างๆ ในราชสำนัก โดยเฉพาะเครื่องประดับ สมัยของฟาโรห์ เป็นสมัยที่รุ่งเรื่องมั่งคั่งสมัยหนึ่ง พบหลักฐานจากเครื่องใช้ รวมทั้งเครื่องประดับที่ถูกฝังไว้ ในปิรามิด ซึ่งมีจุดเด่นพอสังเขปได้ดังนี้:-

1.เครื่องประดับทำด้วยทองคำ

2.เทคนิคที่ใช้ ในการทำเครื่องประดับส่วนใหญ่ คือ การดุนลาย การฉลุลาย ส่วนลวดลายบนเครื่องประดับ ที่พบเป็นลวดลายจาก อักษรอียิปต์ โบราณ, รูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น นกอินทรีย์ งูเห่า,นกกระสา,รวมทั้งเทพเจ้าตามความเชื่อและภาพผู้คน

3.มีการนำอัญมณีมาประดับ เช่น ลาพิสลาซูล, เทอร์คอยซ์ และคาเนเลี่ยน ในบางครั้ง พบว่ามีการใช้ พลอยอะเมทิส และลูกปัดแก้วสีต่างๆ มาประกอบ โดยการนำมาร้อยรวม กับทองคำหรือประดับบนชิ้นงานอีกด้วย

4.มีการลงยาเป็นการเพิ่มสีสรรค์ให้กับเครื่องประดับ

5.ประเภทของเครื่องประดับที่พบ มักเป็นสร้อยคอแข็งแบบเป็นแผง,สร้อยคอลูกปัดต่างๆ,ต่างหูกำไลข้อมือ, จี้ห้อยคอ, เครื่องประดับศรีษะ และประดับต้นแขน เครื่องประดับสไตล์ตูตันคาเมน (Tutankhamun Jewelry) เครื่องประดับสไตล์นี้ ถูกพบในสุสานของกษัตริย์ตูตันคาเมน ของอียิปต์ ช่วงก่อนคริสตศักราช 1339-1329 มัมมี่ของกษัตริย์ ซึ่งเก็บอยู่ในโลงศพทองคำ สามชั้น ที่อยู่ในห้องเก็บศพ ถูกประดับด้วยหน้ากาก มงกุฎ เกราะบริเวณหน้าอก สร้อยคอ แหวน ต่างหู ซึ่งล้วนเป็นทอง

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของเครื่องใช้ ที่ยังไม่เคยสวมใส่ ที่ถูกฝังสำหรับนำไปใช้ ในช่วงชีวิตหลังความตาย และเป็นเครื่องราง โดยชิ้นงานส่วนใหญ่มี การสลัก หรือเป็นลายฉลุ และมีการฝังด้วยดินเผา แบบอียิปต์หรือกระจกสีต่างๆ เพื่อเลียนแบบ เทอร์คว้อยซ์, หิน, คว้อยซ์ และลาปิซ ลาซูรี่ การประดับตกแต่ง ยังเป็นการแทนความสำคัญ ทางศาสนาอย่างเช่น เทพเจ้าหรือนกแร้ง,เหยี่ยว,นกกระสาหรืองูเห่าด้วย