การดูแลรักษาเครื่องประดับ



  • ในบรรดาสิ่งต่อไปนี้ คุณคิดว่าอะไรถูกขูดขีดง่ายที่สุด
  1. – กระจก
  2. – เปลือกหอย
  3. – ทองบริสุทธิ์
  4. – เงินบริสุทธิ์

คำตอบก็คือ ทองบริสุทธิ์ กระจกมีความแข็งแรงมากกว่าทองบริสุทธิ์ประมาณ 100 เท่าเปลือกหอยแข็งกว่าทองประมาณ 3-4 เท่า เงินบริสุทธิ์แข็งกว่าทองเล็กน้อย เวลาเก็บเครื่องประดับที่ทำด้วยทอง ควรหุ้มด้วยผ้านิ่มหรือสำลี หรือผ้านิ่ม ๆ ห่อแยกแต่ละชิ้น อย่านำมากองรวมๆ กัน ยิ่งทองกะรัตสูงยิ่งถูกขูดขีดได้ง่าย การทำความสะอาดตัวเรือนที่ทำด้วยทอง อย่าใช้แปรงขัด เพราะขนแปรงจะขูดขีดหน้าทองเปอร์เซ็นต์สูงได้ ให้ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดฝุ่นละอองออก

วิธีที่ดีที่สุดคือ แช่ลงในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาซักล้างอย่างอ่อน อย่านำไปต้มเป็นอันขาด เพราะหากมีพลอยอยู่ด้วยอาจทำให้พลอยร้าว หรือกรณีพลอยย้อมสีอาจทำให้พลอยซีดจางได้ บางคนใช้น้ำยาแอมโมเนีย ซึ่งไม่ทำอันตรายต่อทอง แต่ต้องระวังเพราะแอมโมเนียจะทำลายผิวของไข่มุก หากเครื่องประดับของคุณมีมุกอยู่ด้วยห้ามใช้แอมโมเนีย อย่าใช้ยาสีฟันทำความสะอาดทองเพราะในยาสีฟันมีผงขัดซึ่งค่อนข้างแข็ง จะขูดผิวทองและพลอยเนื้ออ่อนได้ นอกจากนี้สารเคมีหลายชนิด อาจทำให้เครื่องประดับนั้นสึกกร่อนหรือเปลี่ยนสี สารเคมีที่เราต้องระวังได้แก่

1. คลอรีน เป็นสารมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างสูง อาจละลายผิวของโลหะ หรือทำให้เขี้ยว(หนามเตย) ที่เกาะเกี่ยวพลอยกลายออก หรือบริเวณตัวเรือนหักหรือแหว่ง  อย่าใส่เครื่องประดับทำด้วยทองลงว่ายน้ำในสระน้ำ หรืออ่างน้ำวนแบบจาคูซซี่ อย่าจุ่มเครื่องประดับที่มีน้ำยาฟอกสี เช่น น้ำยาไฮโปซึ่งใช้กับเครื่องซักผ้า

2. โลชั่นและเครื่องสำอาง ทำให้เกิดชั้นไขมันคลุมผิวหน้าของเครื่องประดับทำด้วยทอง ความแวววาวของทองจะลดลง ยิ่งกะรัตต่ำจะเห็นได้ชัด เวลาแต่งตัวให้แต่งหน้าฉีดสเปรย์ผมเสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจึงสวมเครื่องประดับทีหลังสุด

3. น้ำยาดัดผม ทำให้ทอง 10 K หรือ บริเวณรอยเชื่อมของตัวเรือนที่บัดกรีโดยใช้ทองเกรดต่ำ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข็มหรือสีดำ

4. ยาบางชนิด อาจซึมออกมากับเหงื่อ เวลาสวมเครื่องประดับทำจากทองเปอร์เซ็นต่ำ จะทำให้เกิดความสีดำบนผิวหนัง

ข้อควรปฏิบัติเมื่อคุณเป็นเจ้าของเครื่องทอง

1. อย่าสวมเครื่อประดับทำด้วยทองเวลาเล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะกับผู้อื่น หรือทำงานหนัก เช่น ทำสวน ซ่อมอุปกรณ์กิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้ตัวเรือนและพลอยเสียหายได้

2. อย่าถอดเครื่องประดับออกเวลาเข้าห้องน้ำ ล้างมือล้างหน้า หากถอดวางไว้ใกล้อ่างล้างมือ ต้องแน่ใจว่าคุณปิดจุกตรงท่อระบายน้ำแล้ว หรือวางของไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด

3. ทำความสะอาดเครื่องประดับอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้นำยาอ่อน ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาแรง ๆ เพื่อทำลายสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่บนเครื่องประดับของคุณมาเป็นเวลานาน

4. นาน ๆ ครั้ง ให้สำรวจว่าพลอยของคุณยึดกับตัวเรือนแน่นหนาดีหรือไม่ นำมาเขย่าใกล้ ๆ หู หากได้ยินเสียงขลุกขลักเหมือนมีอะไรกระทบกัน ให้นำไปให้ช่างซ่อมแซมทันที

5. อย่าให้เครื่องประดับของคุณที่อยู่ในที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหัน เช่น สวมเครื่องประดับเข้าห้องอบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อนในอ่างจาคูซซี่ แล้วออกมาอาบน้ำเย็นในทันทีอาจำให้พลอยและตัวเรือนแตกร้าวได้

6. ถ่ายรูปเครื่องประดับของคุณตลอดจนจดรายละเอียดของเครื่องประดับชิ้นนั้น ๆ เอาไว้ เวลาหายหรือถูกขโมย จะติดตามกลับคืนได้ง่ายขึ้น

7. นำเครื่องประดับของคุณไปเช็กกับช่างเจ้าประจำที่ไว้ใจได้อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจ ซอมแซมสวนที่สึกหรอ

** ดูแลกันอย่างนี้แล้ว รับรองเครื่องทองของคุณจะสวยไปตลอดกาล **