Portfolios สำคัญยังไง

ก่อนหน้านี้เมื่อซัก 8 ปีก่อน ตอนเรียนที่มหาลัย เราก็คิดว่าเราก็เรียนไปเรื่อยๆ จนจบได้ใบจบมาแล้วได้งานทำเลย ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะ ตอนที่ผมมาฉุกคิดได้ตอนที่รุ่นพี่หลายๆคนในแผนกที่ผมเรียน เรียนเก่งแต่ทำงานไม่ตรงสายกันมากมาย จนมารู้ความจริงว่า พี่ๆเหล่านั้นไม่มีแฟ้มสะสมผลงาน ไปเสนอกับบริษัทงานนั้น จึงไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ เพราะอย่างที่เราเห็นกัน ผู้ประกอบการในปัจจุบัน เค้าไม่ได้มองเพียงแค่ใบจบแล้ว สิ่งที่เค้ามองกันคือ “คุณทำไรเป็นบ้าง” นี่คือคำถามแรกที่คนสมัครงานใหม่ๆมักโดนถามทุกครั้ง (รวมผมด้วย) ประสบการณ์ทำงานยิ่งมาก โอกาสก็มากตามความขยันของเราเมื่อตอนเรียนนนั่นเอง

ซึ่งผมเองก็ลองมานั่งทางในดูแล้ว ก็นึกถึงผลงานที่เคยทำว่ามีไรบ้าง ก็ลองระลึกชาติดูว่ามีอะไรบ้างที่เราเคยทำ เอากระดาษ A4 มานั่งจดได้เต็มหน้ากระดาษ ผมก็เลยเริ่มเก็บผลงานมาเรื่อยๆ

จนจบปริญญา ผมก็เอาแฟ้มสะสมผลงาน ไปยื่นตอนสมัครงานทุกที่ แล้วก็ดีใจที่มีคนสนใจในงานที่ผมเคยทำ (ขอบคุณมากๆครับ) แต่ก็ต้องเลือกทางที่จะเดิน แต่กระนั้น แฟ้มผลงานผมก็จะมีคนเห็นเฉพาะแผนกบุคคลเท่านั้น น้อยคนที่รู้ว่า ผมมีผลงานอะไรบ้าง จนวันนึงเปิดเว็บไซน์มาดู www.coroflot.com เป็นเว็บเมืองนอก ที่คนทั่วโลกเอาผลงานมาแสดง ผมก็ตื่นตาตื่นใจมาก ก็เลยสมัครแบบไม่รู้อะไรเลย มันเหมือนกับการเดินบนทางที่เราไม่คุ้นเคย เพราะมันกว้างสุดลูกหูลูกตา นักออกแบบแฟชั่นมากมายโชว์ผลงานกันเจ๋งๆทั้งนั้น ช่วงนั้นเว็บนี้มีคนไทยไม่กี่คนที่รู้จัก และเป็นสมาชิกน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติเยอะ ผมก็ตะบันเอาผลงานไปโชว์ในเว็บนั้นเป็นว่าเล่นมีอะไรใส่ดะ ซึ่งเผื่อมีใครบนโลกนี้เห็นงานเรา แล้วอยากได้เราปร่วมงานด้วย แต่ด้วยความใหญ่มาก กว้างมากของมัน ทำให้การแสดงผลงานของเราคนไม่ค่อยเห็น จึงรู้สึกท้อใจนิดหน่อย

งานหลายๆงานที่อยากเอามาเป็นผลงานของตัวเอง แต่ก็ต้องสิโรราบ ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ เป็นเจ้าของแบบ เราคนทำก็ได้แต่เงิน ความภูมิใจเล็กๆที่มี………..

ซึ่งบ่อยครั้งที่มีคนมาถามว่าทำไงดีถึงจะมีคนเอาไปทำงานด้วย ผมก็บอกทุกครั้งว่าทำแฟ้มสะสมผลงานดิ หลายๆคนมองข้ามไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในชีวิตที่ครั้งหนึ่งได้ทำอะไรดีๆ ไว้บนโลกนี้ให้เราจดจำก่อนเราสิ้นลมหายใจ

จนแล้วจนเล่ามันก็ยังไม่โดนใจใครซักที แต่ก็ทำมาเรื่อยๆจนมันแน่นมาก ไม่มีที่เก็บแล้ว