ความสุขของการเล่นดนตรี

เชื่อมั้ยครับว่าการเล่นดนตรีนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมมานับสิบปี ซึ่งผมอยู่ในสายงานด้านนี้มา นอกจากเป็นศิลปิน นักออกแบบ หนึ่งในงานที่ผมรักคืองานดนตรีที่เล่น มีความสุขมากกว่าการเล่นดนตรีตามผับหรือร้านเหล้า เพราะการเล่นแบบหักโหมเล่นเอาเป็นเอาตายมันไม่ได้อะไรเลยนอกจากการทำร้ายร่างกายตัวเอง

เล่นอะคูสติกวันละ 5 ชั่วโมงที่เชียงใหม่ทุกวัน

งานศิลปะหลายแขนง งานศิลปะ งานออกแบบ งานดนตรี เป็นศาสตร์ที่แต่ละคนฝึกฝน ต้องทำด้วยความรักทำด้วยใจ หากเรารักที่จะทำอะไรแล้วมันจะเกิดควาทสุขในใจ ซึ่งในชีวิตผมที่ผ่านมาตลอดมีงานศิลปะวนอยู่รอบๆตัวของผมได้จึงเป็นสิ่งที่ดีได้พัฒนาตัวเอง เพราะยิ่งเรามีโลก Online กับ Social network การรับสื่อศิลปะหลากหลายรูปแบบที่มาให้เราได้นำมาปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับตัวเองให้ได้มากที่สุด

การเล่นดนตรี ประสบการณ์เป็นส่วนที่สำคัญมากๆ

ศาสตร์ของการร้องเพลง

  1. อารมณ์เพลง
  2. การจดจำเนื้อเพลงที่จะร้อง
  3. การใช้เสียง
  4. แนวเพลงแบบไหน

ศาสตร์ของการใช้ชีวิต

  1. สงบเงียบ
  2. ไม่มีอะไรรบกวน
  3. สมาธิ
  4. การคิดอย่างไตร่ตรอง

การเล่นดนตรีเป็นวงเริ่มจากคำว่าทีม

การที่คนเราเลือกที่จะทำงานด้านศิลปะไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็ตาม พบว่าเป้นสิ่งที่สร้างสรรค์โลกมามากมายทำให้โลกนั้นมีสีสันตลอด มีวัฒนธรรมความเป็นมาของแต่ละยุค

การเริ่มเล่นดนตรีของผมเริ่มจากการได้ฟังเพลงในเนิสเซอรี่ฟังเพลงและเต้นตามจังหวะเพลงที่ครูเปิดให้เต้นตาม

เข้ามาชั้นประถมเข้าวงดนตรีดุริยาง เล่นกลองแต้กในวง ได้เล่นวงใหญ่ในวงโรงเรียน โดยที่แอบเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่นด้วย

ผมอยู่และได้ฟังเพลงคาราบาวจากพ่อที่เปิดกรอกหูผมทุกวันจนจำเนื้อเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่ซึมซับผมมานาน

แม่ชอบร้องเพลงพุ่มพวงตอนทำกับข้าวช่วงเย็น พี่เลี้ยงผมก็ร้องเพลงแล้วอุ้มผมไปไหนมาไหนก็ร้องเพลงให้ฟัง

ตอนอยู่ห้องเรียนผมชอบเคาะโต๊ะเรียน เคาะเพราะมันสนุก ทำให้การเรียนรู้จังหวะดนตรีด้วยตัวเองผมก็เริ่มขึ้นจากตรงนั้น

การร้องเพลงของผมเริ่มจากการร้องเพลงตามเพลงที่พ่อเปิดให้ฟังในช่วงนั้น เป็นเพราะการร้องตามบ่อยๆทำให้รูปปากและวิธีการออกเสียงของเราสามรถร้องเพลงได้ หลักการร้องเพลงบางอย่างที่เราทำได้แต่คนอื่นทำไม่ได้อันนี้อยู่ที่แต่ละบุคคล ผมไม่ได้

การเล่นกับประสบการณ์มันเดินไปด้วยกันสะสมมานาน จนมีวันนี้

เริ่มได้เรียนร้องลำตัดเพลงฉ่อย เพลงลูกทุ่ง วิชานาฏศิลป์ ในช่วงที่เรียนประถม(ศรีเอี่ยมอนุสรณ์) แต่ก็เก็บเล็กผสมน้อยมาเรื่อยๆ เรื่องดนตรีกับการร้องเพลงของผมค่อยซึมเข้าไปในหัวของผมอย่างไม่รู้ตัว

เราต้องรักมันซะก่อนเราถึงจะทำมันได้ดี พอเข้าช่วงมัธยมต้นก็เริ่มฟังเพลงสมัยนั้นก็เป็นยุคที่ RS รุ่งเรือง เราก็ซื้อเทปมาฟังตามประสาและร้องเพลงตามแบบเด็กๆในวัยที่กำลังเริ่มรู้จักเพลงมากขึ้น เทปฟังกันจนยานเลยก็ว่าได้

คนเล่นกับคนดูสำคัญมากในการเล่นหน้าเวที

เริ่มประกวดร้องเพลงเล่นๆในโรงเรียนที่จัดประกวด ไม่ได้ร้องประกวดเป็นงานประจำแต่มันอยู่ในชีวิตตลอดมา มัธมยมจึงเป้นจุดเริ่มต้นในการฟังเพลงที่โด่งดังและเต้น สนุกกับเพลงนั้นๆ

พอมาเรียนออกแบบในสายอาชีวะที่เชียงใหม่นับว่าเป็นการเข้าถึงเพลงที่เราฟังมาตลอด การได้เรียนศิลปะพร้อมกับได้เข้าไปในสังคมเพื่อนๆนักดนตรีกลุ่มเล็กๆซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เรารู้จักดนตรีมากขึ้น ในตอนนั้นได้เข้ามาเล่นในห้องซ้อมครั้งแรกก็ได้รู้ว่าเพลงนั้นต้องมีเครื่องดนตรีเช่น กลอง กีต้าร์ เบส และนักร้อง เป็นองค์ประกอบที่ผมเริ่มเข้าใจมากขึ้น

ยิ่งเล่นดนตรีมากขึ้น สังคมยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้นในกลุ่มนักดนตรีด้วยกัน

พอมีงานในวิทยาลัยก็เป็นงานที่จัดทุกปีโดยเฉพาะงานดนตรีมีวงดนตรีให้นักดนตรีในวิทยาลัยเล่นในงาน ผมเล่น 3 ปีซ้อน เป็นการบ่มเพาะการเล่นดนตรีที่เราเรียกว่าวงดนตรีมือใหม่ ที่เริ่มรู้จักคำว่าทีมเป้นยังไง เป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นดนตรีก็มาจากศิลปินดังๆในยุคนั้น เช่น Loso / sillyfools / Bigass /Bodyslam /blackhead และวงอื่นๆที่โด่งดังมากในยุคนั้น

ประสบการณ์ที่ได้เล่นในผับดังๆทั่วกรุงเทพก็เคยทำมาแล้ว

พอเริ่มจะเล่นในวงดนตรีได้มาระยะหนึ่ง ก็รู้สึกว่าอยากเล่นดนตรีเป็นซักอย่าง ตอนนั้นกว่าจะได้กีต้าร์มาตัวนึงนั้นยากลำบากมากๆ ผมหัดเล่นกีต้าร์เอง ฝึกเอง หาวิธีเล่นเอง เพราะการร้องเพลงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ผมจึงภูมิใจในเรื่องการเล่นกีต้าร์ได้ แม้ไม่เก่งมาก แต่ก็เล่นเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ตอนเรียน ตอนนั้นเล่นดนตรีร้านแรกคือร้านดอกดิน ที่เชียงใหม่กับเพื่อน ได้ 80 บาท ข้าวผัดกับโค้ก เชื่อมั้ยว่าตอนนั้นเป็นสิ่งที่ภูมิใจมากๆในการเล่นดนตรีอาชีพ เป็นการเริ่มต้นที่ผมยังจดจำได้ถึงวันนี้

ประสบการณ์กับกาลเวลาบ่มเพาะจนผมมีวันนี้กับวง iHearband

เริ่มมาร้องในผับ ร้านอาหารใหญ่ๆในจังหวัดมาหลายร้านในเชียงใหม่สะสมประสบการณ์ ชั่วโมงบินในการร้องเพลงเล่นดนตรียามค่ำคืน เรียกได้ว่าทุกร้านผ่านผมมาหมดแล้ว ทั้งเล่นแทน และเล่นประจำ เรียกว่าเป็นประสบการณ์ทางดนตรีที่หาได้ยากมากในจุดนี้

การเล่นดนตรีกับการเล่นกีต้าร์ในช่วงแรกต้องพึ่งหนังสือเพลงเปิดแล้วเล่นกว่าจะได้แต่ละเพลงต้องฝึกๆๆๆๆๆไม่รู้หลายร้อยรอบ เพิ่งค้นพบว่าเพลงครูของผมคือเพลงของวงโลโซ ผมเป็นแฟนคลับ และเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมต้องเล่นกีต้าร์ให้ได้ ขอบคุณพี่เสกมากครับ

พี่ๆหลายคนถามผมว่า”ทำไมร้องเพลงได้นานอึดจัง”……เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนเล่นดนตรีที่เชียงใหม่ผมร้องเพลง 5-6 ชั่วโมงต่อวัน เล่นทุกวันเป็นเวลาหลายปีจนเรียกว่าชิน และผมเองก็รักษาเสียงของผมด้วยการไม่สูบบุหรี่ กับการดื่มเหล้าเบียร์แบบพร่ำเพรื่อ การรักษาเสียงนั้นก็ไม่ใช้เรื่องยาก