ผู้ชายอายุ 52 ปี ชื่อนายจำรัส โพธิ์แสงดา นี่คือชื่อพ่อของผม ชื่อเล่นจ่า เป็นชื่อที่คนในวงการช่างเครื่องประดับเรียกกันในยุคที่วงการเครื่องประดับเฟื่องฟู ในความที่เป็นศิลปินอยู่ในตัว และนักบิด ผมว่าพ่อมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว ประวัติของพ่อผมก็เป็นผู้ชายคนนึงในยุค 60 ทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนใครคือการเล้ียงลูกแบบให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง อยากทำอะไรให้ทำ ให้รู้ และทุกการกระทำเตือนใจผมและน้องทุกครั้ง พ่อไม่เคยตีผมเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะผมยอมรัว่าผมดื้อมากๆ แต่พ่อไม่เคยตีผมเลย แต่ทุกครั้งที่พลาดสิ่งใดนั้น พ่อจะไม่ซ้ำเติมผมเลย มีแต่คำปลอบใจทุกครั้งที่ได้พบท่าน
พ่อเกิดที่จังหวัดมหาสารคาม บ้านยางสีสุราษ เป็นเด็กผู้ชายที่ออกมาทำงานที่กรุงเทพ เป็นเด็กอีสานกลุ่มแรกๆที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพครั้งเมื่อเด็กๆ เป็นลูกมือช่างทอง ช่างเครื่องประดับมาหลายปี ชีวิตพบแต่ความลำบากมากมาย แต่ผุ้ชายคนนี้ไม่ท้อ แม้จะเป็นคนที่ชอบสังสรรค์ เฮฮาในหมู่เพื่อน แต่ก็เป็นที่รักของเพื่อนๆมากมาย ไม่แปลกใจเลยที่พ่อผมจะมีเพื่อนเยอะ พ่อเป้นคนสุขุม ไม่ค่อยพูด แต่ไม่ใจร้าย การทำงานเป้นลูกมือ่างเครื่องประดับ พ่อเล่าให้ฟังว่าสมัยที่มาทำงานกรุงเทพครั้งแรกพ่อเป้นลูกมือให้ช่างทอง งานหลักคือเป็นเด็กซื้อกาแฟ ซักผ้า เก็บของ ดูแลเครื่องมือให้ช่าง แล้วก็ทำการลักจำวิชาการทำเครื่องประดับของช่างเก่งๆมากมายจนวันนึงพ่อได้โอกาสจากเจ้าของโรงงานเครื่องประดับให้มาลองทำงานช่างทองอย่างเต็มตัว แต่ก่อนที่จะได้เป็นช่างนั้นลำบากมาก ต้องโดนแรงกดดัน การแข่งขันกันในตอนนั้นเพื่อให้อยู่ให้ได้ จนวันนึงที่พ่อผมผ่านจุดนั้นมาได้จนได้เป็นช่างทองฝีมือดีมากๆคนนึงของแวดวงเครื่องประดับของไทย พ่อเคยแข่ง ประกวดงานช่างได้รางวัลช่างสิบหมู่สาขาเครื่องประดับไทย แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ท่านก้ชอบที่จะทำงานที่เป้นตัวเอง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมเหมือนพ่อ อิอิ
พ่อทำงานเครื่องประดับมาตลอดชีวิตของท่าน พ่อเป้นคนที่มีความเป้นศิลปินมาก พ่อเป้นคนที่มือนิ่งมาก มีสมาธิมาก ในการทำงานเครื่องประดับพ่อผมเป้นช่างฝีมือที่นิ่งมาก และชอบการคิดค้นหลายๆอย่างในงานเครื่องประดับมากมาย พ่อผมทำได้ทั้งงานทอง งานเงิน งานทองขาว งานเพชร โดยเฉพาะงานช่างฝัง ช่างประดับอัญมณีลงบนตัวเรือนเครื่องประดับ เรียกได้ว่าฝีมือการฝังงานในวงการเครื่องประดับพ่อผมเป้นมือต้นๆของประเทศในยุคนั้นเลยว่าได้ (ข้อมูลจากเพื่อนเก่า และสมาคมเครื่องประดับไทย) เป็นเกียรติ์สูงสุดอันนึงที่พ่อผมภูมิใจมาก
ในสายงานเครื่องประดับยอมรับกันมานาน ในย่าน บางรัก บ้านแขก สีลม สาทร ในยุคที่วงการเครื่องประดับรุ่งเรืองแบบสุดขีดในยุคนั้นบุมมาก เป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดเครื่องประดับไทย ซึ่งตอนนี้วงการเครื่องประดับไทยตอนนี้ตกต่ำลงไม่เหมือนแต่ก่อน ซึ่งเด็กชาวอีสานยุคแรกๆที่มากับพ่อทุกคนต่างเป้นช่างเครื่องประดับฝีมือขั้นเทพทุกคนรวมทั้งพ่อผม (ผมภูมิใจในพ่อผมมากครับ)
บันทึกของผมวันที่อยู่ข้างเตียงดูแลพ่อที่โรงพยาบาล
- 17/10/2555 16.36น. โรงบาลราชวิถี ชั้น6 เตียงที่25
#Memory - ผมนั่งข้างเตียงพ่อฟังพ่อ พูดกับพ่อ ในวันที่พ่ออยู่ในอาการเสี่ยงต่อการจากไปเพราะอาการเลือดติดเชื้อในช่องท้อง
#Memory - นั่งกุมมือพ่อ มองพ่อด้วยความรักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนมากเท่านี้ ผมฟังพ่ออย่างตั้งใจ ซึ่งผมคุยกับหมอแล้วว่ายังไม่หมดหนทางในการรักษา
#Memory - พ่อผมผ่าเจาะช่องท้องร้อยสายสี่ครั้ง พ่อผมเจ็บทุกครั้งน้ำตาพ่อไหลทุกครั้งที่ผ่าท้อง ผมก็อดแอบมาร้องไห้ด้วยความสงสารพ่อตัวเองแทบขาดใจ
#Memory - จู่ๆพ่อก็พูดขึ้นมาลอยๆ นิ่งๆ ระบายอะไรหลายๆอย่างในใจให้ผมฟัง โดยที่ผมกับพ่อไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับต่อจากนี้ แต่ขอให้ได้บอกกัน
#Memory - พ่อพูดกับผมว่า”ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในวันข้างหน้าอย่างน้อยพ่อก็จะพูดกับนัทตอนนี้เอาไว้ก่อน”….น้ำตาผมซึมในตอนนั้น
#Memory - พ่อผมไม่เคยตี หรือทำโทษผมเลยนับแต่เกิดมา พ่อเป็นคนปลอบผมตอนแม่ทำโทษร้องไห้กอดพ่อตั้งแต่ยังเล็ก
#Memory - ผมก็พึ่งรู้ว่าพ่อร้องไห้ตอนนั้น เพราะเป็นห่วงลูกชายที่เรียนจบ ม.3แล้วไปเรียนคนเดียวในที่ห่างไกลเป็นห่วงลูกมากๆ
#Memory - ในวันที่ผมตัดสินใจไปเรียนออกแบบที่เชียงใหม่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว พ่อขับมอไซด์มาส่งผมขึ้นรถทัว แกเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นพ่อแอบร้องไห้
#Memory - ผมตกอยู่ในวินาทีของชีวิต เป็นการเดิมพันตามหลักธรรมชาติ ว่าพ่อจะอยู่กับผม หรือเลือกที่จะไป
#Memory - น้ำตามีส่วนผสม 99%คือความรู้สึก อีก1%คือน้ำเปล่า
#Memory - นับแต่เกิดมาจนวันนี้ รู้ซึ้งถึงคำว่า นาทีชีวิตก็ตอนนี้ โลกเราเปลี่ยนไป แต่เราไม่รู้เลยว่านับต่อจากนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
#Memory - ในเวลายามเย็นท่ามกลางคนมากมายเดินขวักไขว่ แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว สิ่งเก่าๆผุดขึ้นมาในหัวของผมเรื่องพ่อทุกอย่าง
#Memory - ร่างกายที่ซูบผอมของพ่อในตอนนี้ ผมเกลียดบรรยากาศที่มีสายรโยงระยาง กับเครื่องปั้มหัวใจ ผมเจ็บแทนพ่อจริงๆ
#Memory - คนเราพบกันเพื่อจาก แต่ก่อนจากเราต้องให้ความสุขต่อคนที่เรารักแต่ทุกอย่างย่อมมีหวัง ถ้านาทีนี้หมอผ่าเอาไตผมไปแล้วพ่อดีขึ้นผมก็ยอม
#Memory - อาจจะมีคนที่เจอปัญหามากกว่าผมมากมาย แต่สิ่งที่ผมเจอมันเป็นเหตุการณ์ที่ผมตั้งรับมันไม่ไหว มันรุนแรงต่อผมมากๆ
#Memory - ผมเสียเงินไม่รู้เท่าไหร่เพื่อพ่อ เพราะพ่อมีค่ามากกว่าเงินที่ผมหามาได้ อยู่กับลูกๆให้นานที่สุด เงินไม่ได้มีความหมายเลยสำหรับผม
#Memory - เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย ข่มตาให้หลับ แต่ทำไม่ได้เลย ความกังวลเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ
#Memory - ได้อยู่ในช่วงเวลาที่กดดันมาก พ่อบอกอยากนอนพัก แต่ไอ้พวกชอบมาก่อความวุ่นวายจนพ่อกูนอนไม่หลับมันน่าฆ่าให้ตาย
#Memory - ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ได้ดูแลพ่อแบบนี้ มันเป็นเรื่องย้อนกลับเมื่อตอนเด็กพ่อก็ทำกับเราแบบนี้ อยู่กับพ่อตอนนี้ได้รู้อะไรหลายอย่าง
#Memory - พ่อเจ็บเราก็เจ็บ อารมณ์มันจี้ดใจของผมมาก น้ำตาของพ่อเป็นของเหลวที่ทำลายความสุข เพราะมันออกมาพร้อมความเจ็บปวดของพ่อ
#Memory - ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว แต่แรงทำงานหาเงินช่วยพ่อเต็มเปี่ยม ผมไม่ได้นอนมาสามวันอิ่มๆเลย พ่อก็คงเหมือนกัน พ่อสู้เราก็สู้!!
#Memory - ยังดีที่เงินที่ได้จากการเล่นดนตรีกับ
#iHear และขายคาฮอง สามารถต่อระยะ ยื้อชีวิตพ่อได้ เท่าไหร่ก็ยอม เงินไม่สำคัญแล้ว#Memory - ลูกๆอย่างเรานอกจากให้ความรัก และการกตัญญู การดูแลบุพการีเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถทดแทนคุณท่านได้อย่างดี ชีวิตของผมไม่ค่อยได้กอดพ่อเลย
- ผมรักพ่อมาก แต่การกระทำการดูแลของผมอาจจะไม่เหมือนลูกผู้หญิง แต่ทำเต็มที่ในฐานะลูกของพ่อคนหนึ่ง ความกังวลทำให้ผมนอนไม่ได้เลยตากลับแต่ใจตื่น
- ความลับของผมกับพ่อคือ ผมกอดพ่อแทบจะนับครั้งได้เพราะน้อยมากที่จะมีโอกาสได้กอด มาวันนี้ผมกอดทุกครั้งที่มีโอกาส ให้แกได้รู้สึกว่ากำลังใจยังมี
- บางทีความเงียบมันทำให้เรามีสติ การพูดมาก ฟังมากไป มันก็ทำให้เราไม่มีสมาธิจดจ่อกับหน้าที่ของเรา
#Memory
ครอบครัวผมย้ายบ้านบ่อยมาก หลายท่านถามผมว่าผมเป็นคนที่ไหน ผมก็จะบอกว่าผมอยู่ไหนมาบ้าง
- ผมเกิดที่โรงพยาบาลกลาง พักอยู่ครั้งแรกที่แฟลต สุกุมล วรจักร ซึ่งตอนนี้ทุบท้ิงไปแล้ว อยู่ตั้งแต่เกิด
- พอโตขึ้นมาซักสามขวบจนมาอยู่ที่คลองประปา ดาวคะนอง
- ย้ายมาที่วัดไผ่เงิน เป็นตึกแถวสูงมาก
- สี่ขวบไปอยู่ที่สาธุประดิษฐ์ เขตห้วยขวาง
- ย้ายมาอยู่ที่บางนาตอนเรียนประถม
- เรียนมัธยมต้น และย้ายมาอยู่ที่จังหวัดชลบุรี
- จบมัธมยมต้นมาเรียน ปวช. ที่เชียงใหม่
- จบปวช. หยุดเรียนทำงานเครื่องประดับอยู่ที่ ลาดกระบัง 1 ปี
- กลับมาเรียนมหาลัยที่เทคโทเจ็ดยอดจังหวัดเชียงใหม่
- เีรยนจบรับปริญญาลงมาทำงานกรุงเทพ อยู่ประเวศ
- เข้าทำงานบริษัท มาอยู่ที่ ศรีบำเพ็ญ สาทร
- ปัจจุบัน 2012 พักอยู่การเคหะร่มเกล้าจนปัจจุบัน
ไม่มีคำใดยิ่งใหญ่เท่าพ่อและแม่ คนทั้งสองที่สร้างผมขึ้นมาจนเป็นวันนี้ มีวันนี้เพราะท่าน ตอนนี้ที่ผมทำบล้อคขึ้น ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า ตอนนี้ขอทำหน้าที่ของลูกอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความภูมิใจอย่างหนึ่งของครอบครัวคือการที่ผมเรียนจบปริญญา สาขาเทคโนโลยีเครื่องประดับอัญมณี เป็นคนเดียวของตระกูล ลบคำสบประมาทของคนอื่นที่บอกว่าผมเรียนไม่จบหรอก ตอกหน้าคนเหล่านั้นจนพ่อผมภูมิใจมากรวมทั้งแม่ด้วย ผมกัดฟันเรียนจนจบเพื่อมีวันนี้ ตอนเรียนจบวันสุดท้ายผมจำได้แม่นว่าผมโทรหาพ่อกับแม่ว่าผมทำสำเร็จแล้ว สิ่งที่พ่อกับแม่หวังที่จะได้มาเห็นลูกรับปริญญา เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว พ่อกับแม่สามารส่งผมเรียนจนจบปริญญาได้ นับว่าท่านก็ภูมิใจในตัวของท่านเองด้วย น้ำตาของความยินดีไหลออกมาจากหน้าของพ่อด้วยความสุข วันนั้นทำกับข้าวกินกันในบ้านหลังจากรับปริญญามา มื้อนั้นทุกคนในครอบครัวเรา 4 คนกินข้าวอย่างมีความสุขมาก ผมจำได้ดี