หากพูดแล้ววงการเพลงไทยทุกวันนี้มีแต่ถอยหลังลงคลองขึ้นทุกวัน ดังนั้นการเป็นศิลปินในประเทศไทยเรานั้นช่างลำบากมาก ผมเองก็เกือบได้เป็นศิลปิน แต่โชคยังเข้าข้างให้ผมได้มาอยู่วง iHearband ซึ่งก่อนมาอยู่วงนี้ก็อยู่วงที่เชียงใหม่มาซึ่งผมมองว่าการเป็นศิลปินนั้นเป็นอะไรที่นักร้องนักดนตรีใฝ่ฝันกันมากมาย ผมเลือกตัดสินใจไม่ออกมาเป็นศิลปินเต็มตัวในช่วงนั้น แต่อย่างว่าละครับ พอได้รู้ได้เข้าใจและได้ข้อมูลจากเพื่อนๆที่ได้เป็นศิลปิน
รายได้ของศิลปินหลักส่วนใหญ่มาจาก
- การเล่นสดตามผับต่างๆ
- แสดงคอนเสิร์ต
- งานอีเว้น
- รายการทีวี(ต้องดังจริงๆ)
ผมไม่พูดเรื่องการขายแผ่น หรือขายการ Download เพลงผ่านระบบกันเพราะผมว่ายอดเพลงคงไม่ได้มากเท่าไหร่ เรียกได้ว่ายุคนี้การซื้อของลิขสิทธิ์เป้นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนไทย เพราะการเข้าถึงยาก ยุ่งยากมาก เพราะผมว่าพวกที่ขายแผ่นผีตามคลองถมมันดูเข้าถึงลูกค้ามากกว่าระบบไฮเทคของประเทศเรา มันไม่ใช่แนวคนไทยอ่ะครับ พูดจริงๆเลยเรื่องนี้
แล้วยิ่งมีบางค่ายเพลงปิดสังคมด้วยการงดนำเอาผลงานลง Youtube ด้วยแล้วน้ัน การทำงานของศิลปินนั้นเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เราก็ได้แต่รอดูการล่มสลายของค่ายเพลงนั้นอย่างไม่ช้าแน่นอน ผลงานต่างๆของศิลปินก็ขึ้นตรงกับค่ายเท่านั้น ศิลปินในสังกัดก็เอาไปร้องไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
บางคนก็ใจแคบไปครับ เค้าก็บอกครับว่าทุกๆธุรกิจมีต้
การเป็นศิลปินในประเทศไทยใครว่าสวยหรู…….มีแต่ข้อผูกมัดต่างๆมากมาย สัญญาค่ายที่ต้องมีการเซ็นกันเอาให้ไปไหนไม่ได้ บางค่ายเซ็นเอาไว้แล้วก็ดองศิลปิน จนหมดสัญญาซึ่งน่าเกลียดมาก หากผมเจอกับตัวคงรู้สึกแย่มากๆ เพราะค่ายเพลงไม่ได้สนใจเรื่องความพิถีพิถันในการทำเพลงเท่าไหร่ศิลปินแต่ละคน ค่ายเพลงนั้นเน้นการตลาดมากกว่าผลงานมากมาย ซึ่งผมรู้สึกว่าวงการเพลงไทยตกต่ำลงเพราะแนวคิดของค่ายเพลงที่เอาแต่ได้ ทำให้ผลงานออกมาไม่ดี ดังเพราะกระแสโปรโมทหนักๆ กรอกหูคนฟังให้จนรำคาญ จนจดจำ นี่เป็นสิ่งที่วงการเพลงไทยทำกับคนฟัง และศิลปินก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ต้องทำตามที่ค่ายสั่ง สังกัดสั่งอะไรต้องทำอย่างนั้น ใครเป็นตัวขายของค่ายก็จะดูแลดีหน่อย แต่ศิลปินคนไหนไม่เป็นตัวขายของค่ายก็ปล่อยให้หากินกันเองตามอัตภาพ ซึ่งไม่มีการจัดการดูแลที่ดีเลย(ศิลปินบ่นให้ฟัง)
ลาก่อน……แกรมมี่