อยากเป็นนักดนตรีอาชีพ

อาชีพนี้เป็นอาชีพที่หลายๆคนต้องการทำ เป็นที่ใฝ่ฝันของคนหลายๆคน อีกทั้งเรื่องของรายได้ที่มากกว่าอาชีพอื่นๆในสังคม เป็นอาชีพที่อยู่หน้าเวที เป็นที่รู้จักในสังคม งานสายบันเทิงด้านหนึ่งที่น่าสนใจมาก เป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถ กับการติดต่อสื่อสาร เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจคนอยากทำ ล่อใจคนมากมาย แต่ทราบมั้ยครับว่าการทำอาชีพนักดนตรีไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลยจริงๆ มันมีองค์ประกอบหลายอย่างโดยเฉพาะงานนักดนตรีในกรุงเทพด้วยแล้วการแข่งขันนั้นสูงมากๆ

อาชีพนักดนตรี

การเล่นดนตรีเป็นเรื่องง่าย แต่จะทำเป็นอาชีพนั้นยากกว่ามากๆ การฝึกฝนในการเล่นดนตรีเป้นแค่เพียงส่วนหนึ่ง แต่หากการพัฒนาฝีมือด้านดนตรีให้ก้าวไปอีกขั้น สิ่งสำคัญคือการได้ลงเล่นในสนานมจริง ไม่ใช่แค่ห้องซ้อมเท่านั้น เราจะพบกับประสบการณ์พิเศษที่การเรียนดนตรีนั้นไม่สามารถมีให้ท่านได้ แน่นอนคือ วินาทีแรกที่ได้เดินขึ้นเวที เป้นอะไรที่น่าจดจำ อยากให้น้องๆทุกคนจดจำสิ่งนี้ให้ได้

อาชีพนักดนตรี

อาชีพนักดนตรีนั้นมีหลายแบบมีรูปแบบที่แตกต่างกันจึงขออธิบายให้ฟังว่าอาชีพนักดนตรีมีแบบในบ้างที่เราเห็นทั่วไปมีอะไรบ้าง

  • นักดนตรีโฟล์คซองเล่นตามร้านอาหารกลางคืน
  • นักดนตรีงานอิเว้นของแต่ละงาน
  • นักดนตรีวงดนตรีงานแต่งงาน
  • นักดนตรีในผับ
  • นักดนตรีในโรงแรม
  • นักดนตรีห้องอัดเสียง
อาชีพนักดนตรี

เล่นดนตรีเรื่องง่าย แต่ไม่ง่ายถ้าจะเป็นนักดนตรีเพื่อว่า ใครที่คิดว่าตนเองรักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ จะได้เข้าใจศาสตร์แห่งเสียงที่เรียกว่า”ดนตรี”ครับกาลเวลาของอดีตกับปัจจุบันก็มีส่วนทำให้จิตใจคนรักดนตรีนั้นต่างกันครับคนโบราณส่วนมากจะไม่เห็นด้วยกับลูกหลานที่ชอบการดนตรี

คงเคยได้ยืนคำว่า”เต้นกินรำกิน”ที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนชอบพูดกันติดปากเพราะพวกเขามีความเชื่อว่ามันไม่เท่เหมือนการเป็นเจ้าคนนายคน ดังนั้น..คนรักดนตรีในสมัยก่อนย่อมต้องฝ่าฟันจากแรงกดดันอย่างหนักอย่าหวังว่าพ่อแม่จะซื้อกีต้าร์โปร่งให้ซักตัว…กลายเป็นพวกเกียจคร้านในสายตาของพวกเขา ด้วยซ้ำมันจึงเป็นเสมือนแรงผลักมุมานะที่ต้องพยายาม

อาชีพนักดนตรี

ฝึก..ฝึก..และก็ฝึกอย่างเต็มที่ ก่อนจะเดินเข้าห้องซ้อมดนตรีด้วยค่าขนมตัวเองและต้องไม่ให้ทางบ้านรู้เด็ดขาด
ไม่งั้นโดนด่า3วัน5คืนไม่เลิกครับ ซึ่งต่างจากพ่อแม่สมัยใหม่ที่มักหาทางออกให้ลูกที่ไม่เอาไหนด้วย ดนตรี เพราะมีตังก็ทำให้ลูกดังได้ ทุกอย่างสามารถเนรมิตได้ในบัดดล ความแตกต่างคือ คนรักดนตรีวันนี้ ศาสตร์แห่งเสียงเพลงที่เข้าในหัวใจจึงให้ความรู้สึกแตกต่างกัน..ความสามารถและคุณภาพก็ต่างกันตามไปความอุตสาหะและความมุมานะจึงห่างกันไกลลิบกับคนดนตรีในยุคก่อนจำได้ว่าเพื่อนคนหนึ่งฝึกกีต้าร์วันละ8ชั่วโมงทุกวันตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี(เป็นเรื่องธรรมดา)ต่างจากคนดนตรีวันนี้ จับคอร์ดได้4-5คอร์ดก็กลายเป็นผู้มีความสามารถพิเศษไปแล้ว

อาชีพนักดนตรี

คนดนตรีในยุคก่อนนิยมออกต่างจังหวัดตระเวณเล่นไปทั่วสะสมประสบการณ์ดนตรีอย่างแท้จริงดนตรีรุ่นเก่าจะมีแต่ให้กำลังใจ เช่น “ฝึกไปเรี่อยๆไอ้น้อง อย่าหยุด แล้วจะเก่ง”เป็นคำชมแบบง่ายๆ แต่ได้ใจ…ไม่ซ้ำเติม ผิดตรงไหนบอก สอน ให้ความรู้ พูดถึงตรงนี้ขอบ่นซักหน่อย เวลาเปิดเจอรายการเพลงรายการหนึ่ง!ที่ดูจะเป็นรายการที่สร้างความมันส์ สะใจ ให้ผู้ชม กับการที่นั่งวิจารณ์อย่างสับสนด้วยเหตุผลนึกเอาเองของเหล่ากูรูและรูกู ที่ทำตนเป็นผู้รู้ ทั้งที่รู้ไม่ถึงหรือไม่มีความรู้แต่กูดังเพราะมีตังง่ะที่น่าทุเรศก็คือ คำพูดออกแนวอารมณ์ โดยไม่รู้สึกสงสารกับความเพียรพยามของเด็กน้อยผู้เข้าประกวด ประมาณว่า “ถ้ามึงอยากดัง ก็ต้องทนฟังกูนั่งด่า”น่าสงสารเด็กบางคนเฝ้าเพียรฝึกฝนเพื่อฝันของตัวเองแต่ต้องพลังทลายเมื่อได้ยินพวกมันนั่งวิจารณ์ภายใน 5นาทียังสงสัยว่า ถ้าให้ไอ้พวกชำนาญวิจารณ์ ทำต้นแบบให้ดู ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า

ฟังบริบทความรู้ที่พวกเขานั่งวิจารณ์อย่างสนุกปากแล้ว อยากจะอ้วก..นั่นไม่ใช่บุคลิกของคนดนตรีอาชีพ…แต่ที่เป็นพหูสูตรดนตรีตัวจริงของเมืองไทยก็มีเยอะครับเพียงแต่ไม่โดดเด่น และพวกเขาเหล่านั้นต่างหากที่ควรถูกเชิญมาเป็นกรรมการตัวจริง
ครั้งหนึ่งของชีวิตได้เคยสัมผัสกับนักดนตรีระดับแถวหน้าสุดของเมืองไทย ผู้ที่ไม่มีใครร้องเสียง ร๊อด สจว๊ตได้เหมือนเท่าเขาผู้นี้อีกแล้ว

อาชีพนักดนตรี

หลายคนคงนึกชื่อออกนะครับ แม้เป็นช่วงสั้นๆของเวลา แต่สิ่งที่พวกเรารับรู้ได้คือ ความรู้ สอนให้เห็นกันจะ จะ.. ร้องสอนให้ฟังว่าร้องยังไง ใช้เทคนิคตรงไหน เก็บลมหายใจอย่างไร ใช้ส่วนไหนของร่างกาย และอีกมากมาย นี่คือความอบอุ่นจากนักดนตรีรุ่นพี่ที่ถ่ายทอดจากใจ..การเล่นดนตรีไม่ใช่เรื่องยากที่คิดจะฝึก แต่การใช้ชีวิตเป็นนักดนตรีอาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะหมายถึงต้องรู้จักใช้ชีวิตตนเองให้เป็น

อาชีพนักดนตรี

วันนี้เพื่อนๆหลายคน ฝันอยากเป็นนักดนตรีอาชีพ ฝันอยากขึ้นยืนเด่นบนเวที แต่เมื่อเข้ามาสัมผัสชีวิตจริงจัง กลับไปไม่ถึงฝัน หงายท้องเสียศูนย์ไปก็เยอะครับเพราะมันไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างที่คิด ใช่..แค่การเล่นดนตรีบนเวที สนุก แน่แต่การสร้างคุณภาพและบุคลิกภาพให้คนยอมรับนั้นคือเรื่องยากมาก ถ้าคิดจะเดินทางเป็นอาชีพ เริ่มต้นจากชีวิตต้องทิ้งเวลาให้กับการฝึก ฝึก ฝึก และก็ฝึกนั่นหมายถึงคุณภาพ บุคลิกภาพก็คือ การวางตัวในสังคม นอบน้อมแต่มีจุดยืน การปรับสภาพจิตใจ การอดทนอดกลั้นต่ออารมณ์ การมองโลกทัศน์ที่เปิด การเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับที่ดีในเวลา

เดียวกัน ยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้และให้อย่างเต็มใจกับผู้ที่อยากรู้ การไม่โง่กับสิ่งแวดล้อมอันเย้ายวน และ..อีกเยอะ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า”ประสบการณ์”การเดินทางแห่งชีวิตนักดนตรีวันวานกับวันนี้ มันจึงต่างกันเหมือนหนังคนละม้วน ครับ เป้าหมายสู่ฝันก็ต่างกัน นักดนตรีรุ่นเก่าเป้าหมายสู่ฝันของพวกเขาคือ “อยากเก่ง” แต่ฝันของนักดนตรีรุ่นใหม่ พวกเขาฝันไว้แค่”อยากดัง อยากรวย” และยังมีอีกจำพวกประเภทขอแค่กลิ่นภาพลักษณ์นักดนตรีเท่านั้นฝันของพวกเขาคือ”อยากเท่”นักดนตรีก็เป็นอาชีพสุจริตเหมือนอาชีพอื่นๆ ที่ใช้หาเลี้ยงชีพได้ถ้าใจเข้าถึงคำว่า”ดนตรี”จริงๆครับ.แต่ถ้าไม่แน่ใจตัวเอง ..อย่าเล่นครับ “เสียของ”