รีวิวชีวิตนักดนตรีกับโควิดทั้ง 2 รอบของผม

วันนี้ผมมาขอเล่าในส่วนของผมที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากควิดรอบ 2 เป็นบทเรียนที่แสนแพง ที่เปลี่ยนชีวิตของผม

ต้องบอกก่อนเลยครับว่ารอบนี้พังมาก มากกว่ารอบแรก เพราะยังไม่ฟื้นจากรอบแรกก็เจอระรอกสองเข้ามาอีกดอก แล้วมาโดนช่วงปลายปีที่งานกำลังพีคมาก กำลังจะได้ตั้งตัวเริ่มต้นใหม่ จนต้องพาครอบครัวไปอยู่แม่กำปอง ตอนนี้จะเข้า 1 ปีแล้วที่พาครอบครัวมาอยู่

เพราะโควิดต้องทำให้เราสามคนมาอยู่แม่กำปอง ครบ 1 ปี

ตอนโควิดรอบแรกผมโดน ยกเลิก และ เลื่อนงาน แบบเรียบทั้งกระดานชั่วข้ามคืน งานหายไปหมด ยอมรับว่าเครียดมากๆครับ แต่เราต้องสู้ต่อ เพราะต้องมีลูกและภรรยาที่ต้องดูแล พอเห็นทีท่าไม่ดีละ เลยคุยกับแฟนว่าเรากลับแม่กำปองดีมั้ย สรุปเราสามคนพ่อแม่ลูกจึงตัดสินใจเลือกขึ้นไปอยู่แม่กำปองกัน

ชีวิตพ่อค้าครั้งแรกในชีวิตผม

ตอนนั้นเรามีเงินอยู่ก้อนนึง และทรัพย์สินอยู่พอสมควร เลยขึ้นไปอยู่แม่กำปอง และก็ทำเรื่องชะลอค่างวดผ่อนรถได้ 6 เดือน ซึ่งแบ่งเบาภาระได้เยอะเลยครับ ต้องขอขอบคุณทางโตโยต้าที่ให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ครับ เพราะตอนนั้นเรามีภาระเดียวคือค่าผ่อนรถเพียงอย่างเดียว และค่าใช้จ่ายในการดูและลูก

เปิดร้านเนยกรอบสนุกมาก ลูกเมียก็มีความสุข

ต้องยอมรับเลยครับอยู่บนดอยค่าใช้จ่ายนั้นไม่สูงเลยครับ ถ้าอยู่แบบสบายๆไม่ฟุ่มเฟือยก็อยู่ได้ยาวๆ เราก็อยู่กันสามคน การมาอยู่แม่กำปองก็มีความสุขในอีกรูปแบบนึงที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกัน

อยู่กันบนดอยสามคนพ่อแม่ลูก ใช้จ่ายอย่างประหยัด

พอเข้ามาสู่เดือนที่ 6 ของการฝ่าโควิดรอบแรกมา จำได้ว่าเงินเริ่มเหลือน้อยลงเพราะแทบไม่มีรายได้เข้าบ้านเลย เอายังไงดี เพราะตอนนั้นเริ่มคลายล๊อค คนในประเทศเริ่มออกเที่ยวกัน……..ผมกับแฟนเลยคิดฉับพลันในทันใดนั้น ว่าหน้าบ้านเราว่างอยู่และนักท่องเที่ยวก็เดินผ่านหน้าบ้านเยอะมาก ผมเลยเห็นถึงศักยภาพว่าเราน่าจะขายของได้แน่ๆ เพราะมันหน้าบ้านเราไม่ต้องเสียค่าเช่า ทำเลก็ดี ผมเลยบอกกับแฟนขายเนยกรอบเลยตัว เพราะเรามีแพลนเมื่อหลายปีก่อนว่าจะทำ แต่ตอนนั้นติดงานที่กรุงเทพ เลยไม่มีโอกาสได้ทำ โอเคดังนั้น ผมจึงเอาเงินที่มีอยู่ จ่ายค่าเรียนและซื้ออุปกรณ์มาหัดทำ ใช้เวลาในการเรียนรวมๆแล้วอาทิตย์นึง แล้วเปิดร้านขายเลย

ในวิกฤติอะไรที่ทำได้ให้รีบทำเลย นี่คือร้านเนยกรอบ ที่เราตั้งแบบง่ายๆหน้าบ้านเลย
เนยกรอบดันขายดีซะงั้น 555 ช่วยชีวิตเอาไว้

เชื่อมั้ยครับว่าเนยกรอบช่วยชีวิตผมกับครอบครัวไว้จริงๆ เพราะมันดันขายดี ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ทำให้เรามีรายได้เลี้ยงครอบครัว ก็ทำมาเรื่อยและก็มีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องนักดนตรีมีงานดนตรีเข้ามา ยิ่งทำให้เราฮึดใหญ่เลย ใจชื้นขึ้นมาทันทีเพราะมีรายได้หลายทาง ผมจึงยอมขับรถ นั่งเครื่องบินลงมาเล่นดนตรีแบบไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อจะโกยเงินให้มากที่สุด

งานดนตรีเริ่มเข้ามาแล้ว

ตอนนั้นงานดนตรีเริ่มเยอะ ตอนนั้นเก็บเงินได้ ผมกับแฟนก็เห็นว่าบ้านเรามีที่ น่าจะสร้างบ้านพักรับนักท่องเที่ยวได้ เราก็เอาเงินที่มีอยู่สร้างบ้านพักน่ารักๆที่แม่กำปองชื่อว่า “ฮักแม่กำปอง” ใช้เงินทุนอันน้อยนิดของเรา เรียกได้ว่าต้องทำให้สวยในงบที่จำกัด และเราก็ทำออกมาได้ดี และได้เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวได้ทัน เรียกได้ว่าลงตัวและไปได้สวย เพราะผมเองก็เล่นดนตรี แฟนเปิดร้านเนยกรอบหน้าบ้าน แฮปปี้

ความคิดบ้าๆบอๆของผม ที่วาดมันขึ้นมาด้วย iPad
คิดแล้วทำ มันก็เกิดผล ได้บ้านหลังนี้มา เป็นความภูมิของครอบครัวอีกอย่าง

ช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่งานพีคที่สุดเพราะมีงานที่อั้นจากโควิดรอบแรก เลยมากันแน่ๆคิวเต็มทั้งเดือน แล้ววันนึงของต้นเดือนธันวาเหมือน ฟ้าผ่ากลางใจเลยเพราะโควิดรอบสองกลับมาอีกครั้ง งานก็หายไปอีกรอบสอง สี่สิบกว่างานหายไป ต้องบอกเลยว่าครอบครัวผมไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเลย ต้องพึ่งตัวเองล้วนๆ จนต้องกลับไปตั้งหลักที่แม่กำปองอีกรอบ แต่คราวนี้หนักตรงที่ตอนนั้นคนในประเทศก็ไม่มีเงินเที่ยว ต่างชาติแล้ว คือไม่มีเลย เงียบมากๆ ยังคิดเลยว่ารอดมาถึงวันนี้ได้ยังไง555555

ครอบครัวของผมสามคนพ่อแม่ลูก

ต้องขอบคุณครอบครัวที่ช่วยเป็นกำลังใจและเป็นคู่คิดที่ดีมากๆให้ตลอดมา จนเราฝ่ามาได้ เหนื่อย และท้อใจมากๆในตอนนั้น แต่พอผ่านมันมาได้ ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีขึ้นมาบ้าง แฟนผมมีร้านเนยกรอบขายหน้าบ้าน เปิดบ้านพักรับนักท่องเที่ยว ส่วนผมก็เล่นดนตรีเหมือนที่เคยทำมาสิบกว่าปี ลูกสาวก็ได้อยู่ในบรรยากาศดี ธรรมชาติ สุขภาพจิตดี ร่างกายแข็งแรก ร่าเริง เท่านี้ก็มีความสุขแล้วครับ

กว่าจะมีวันนี้เราสามคนฝ่ามันมาได้

แต่โควิดครับ………..มึงกับกูอย่ามาเจอกันอีกเลย กูเหนื่อยว่ะ55555 จบครับ