อุดม แต้พานิช ต้นแบบความหัวเราะของผม

คนเรามักเจอความเป็นต้นแบบของการใช้ชีวิต ซึ่งต้องมีต้นแบบ ผมเองก็เช่นกันซึ้งความเข้าใจของผม โน๊ต อุดม แต้พานิชเรียกได้ว่าต้นแบบและแนวทางของผมมาจากเค้าเลย เพราะในความเชื่อของตัวเองมักมีบวกลบ แม้ผมก็ชอบเป็นคนอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง

ผมชอบอ่านหนังสือของพี่เค้าจริงๆ อ่านวนไปวนมาไม่รู้กี่รอบ และเราก็ไม่เคยจำได้เพราะมันเข้าถึงใจผม อยู่เชียงใหม่ตั้งแต่สมัยก่อนที่เรียนผมไม่มีทีวี วิทยุ อยู่ในหอคนเดียวต้องพึ่งตัวเอง อ่านทุกวันจนซึมซับ หลายๆมุขของพี่เค้าผมนั่งอ่านๆๆๆๆจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในช่วงนั้น

จำได้เลยว่าครั้งแรกที่ประทับใจพี่โน้ต คือสมัยตอนที่ผมเรียน อาชีวะเชียงใหม่ ผมนั่งอยู่ถนนคนเดินท่าแพ (ในสมัยนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นในคูเมือง) เจอพี่โน้ตเขียนพื้นทำ Street Art อย่างเมามันส์ ผมเลยนั่งดูพี่เค้าวาดไปเรื่อยๆ ซึ่งผมเองก็เรียนศิลปะมา เหมือนกัน ก็ยังงงว่าสวยตรงไหน

แต่พอเสร็จแล้ว สวยแปลกๆ จำได้ดี และได้คุยกับพี่เค้า ถามพี่เค้าว่า ทำไมตัวจริงพี่ไม่ขำเหมือนในทีวีเลย พี่โน็ตตอบมา”ความจริงกูก็ไม่ได้เป็นคนขำนะ แต่ตัวกูทำตัวเองให้เป็นอย่างนี้”ผมงงแต่กินใจมาก

ประวัติUDOM

อุดมเริ่มงานแรกเป็นคนเขียนการ์ตูนที่ชัยพฤกษ์ ทำได้สองเดือนก็ลาออกด้วยเหตุผลที่มันไม่ตรงกับใจเท่าไร เมื่อได้อ่าน ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงรู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ อยากร่วมงานด้วย ครั้งแรกไปสมัคร TRY OUT เป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ด้วยลูกตื้อและบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร จึงได้ร่วมงานกับศิษย์สะดือสมใจ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เล่น ได้รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลปของไปยาลใหญ่

ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต สังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงด้วยกันทั้งนั้น อุดมได้รับอิทธิพลนี้มาและได้มาค้นพบโลกของตัวเองอีกโลกหนึ่งที่นี่ คือโลกของการอ่าน แล้วยังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมากๆ จึงเกิดแรงใจอยากเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง ครั้งหนึ่งในชีวิตแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกแจ้งเกิดในสนามไปยาลใหญ่นั่นเอง มี ศุ บุญเลี้ยงเป็นบรรณาธิการ หลังจากงานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า “โน้สหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้” ควบคู่ตำแหน่งฝ่ายศิลปของหนังสือ ใครที่เป็นแฟนไปยาลใหญ่คงคุ้นเคยและติดอกติดใจกับเกมส์กวนๆ ในคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ อุดมเป็นสารภีในช่วงท้ายของหนังสือก่อนที่ไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลง

อุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของ เจเอสแอล และเล่นเกมส์รายการจุดเดือด ทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานด้วยในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่าง เต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ส และต่อมาในยุคอดีตนั้นเคยแสดงเป็นตัวปริศนาในภาพ VTR กับคุณศุภกร อุดมชัย หรือ “หมี ปลื้ม” ที่ใช้ชื่อว่า “ปริศนา อ้วน-ผอม” ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ 17 มกราคม 2533 – 29 มกราคม 2535 ทางช่อง 7 หลังจากความสำเร็จในครั้งแรก อุดม แต้พานิช ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก และได้สร้างปรากฏการณ์ขึ้นในเมืองไทย นั่นก็คือ การพูดตลกคนเดียวบนเวที ทำให้คนไทย ได้รู้จักคำว่า Stand Up Comedy หรือ ในชื่อไทย เดี่ยวไมโครโฟน เป็นครั้งแรก