Review Shure Beta 58A เป็นการรีวิวที่มาจากการได้ใช้งานจริงๆของผมเองที่ใช้แล้วมาหลายปีจนได้เปลี่ยนไมโครโฟนก็ยังใช้ Shure Beta 58A เมื่อก่อนผมเคยเชื่อเสมอว่าไมโครโฟนที่ดีที่สุดของผมคือ Shure SM58 ไมในตำนาน แต่พอได้คำแนะนำจากพี่พัชร (@iPattt) ว่าผมน่าจะใช้ Shure Beta 58A ดูว่าเป็นยังไงดีกว่ามั้ย
SHURE BETA 58A เป็นไมโครโฟนไดนามิกที่ออกแบบมาสำหรับเสียงที่ออกมาได้คุณภาพที่มาก ในมืออาชีพและสตูดิโอบันทึกเสียงต่างนิยมใช้เล่นสดและสตูดิโอเพื่ออัดเสียง ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นทางเลือกชั้นนำต้นๆในหมู่นักร้องมืออาชีพทั่วโลก
- ตอบสนองความถี่ที่เหมาะสำหรับนักร้องที่มีระดับกลางและ brightened rolloff เบสในการควบคุมผลได้ยอดเยี่ยม
- รูปแบบ ของเสียงที่ได้นั้นมีความละเอียดสูง ในเรื่องของเสียงรบกวนจึงไม่มีเลยสำหรับไมโคโฟนรุ่นนี้
- แม่เหล็ก Neodymium สำหรับการส่งสัญญาณนั้นให้สัญญานเสียงที่แน่นอน แม่นยำ ไม่เพี้ยน
- เหล็กตะแกรงตาข่ายที่หัวไมนั้นแข็งแรง ต้านทานการสึกหรอ วัสดุไม่เป็นสนิม
- นิวเมติกช็อตระบบขั้นสูงที่ติดลดการส่งผ่านของเสียงและการสั่นสะเทือนทางกล
- การรับสัญญานและการส่งสัญญานมีความแม่นยำและคุณภาพเสียงที่คม
SHURE BETA 58A มีการตอบสนองความถี่รูปที่เหมาะสำหรับนักร้องอย่างดีมากๆ ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของไมโครโฟนนี้ตอบสนองผู้ใช้ได้อย่างดีนอกจากคุณภาพเสียงที่ได้
จากวันนั้นจนวันนี้ก็เกือบ 3 ปีแล้วที่ใช้ไม Shure Beta 58A มาซึ่งต้องบอกว่าไมโครโฟนรุ่นนี้ทำมาเพื่อกับนักร้องโดยเฉพาะ ราคาก็แพงกว่าไมโครโฟน Shure รุ่นอื่นๆที่เมื่อเทียบคุณภาพนับได้ว่าดีมากๆ ได้เสียงที่คม มีมิติในเสียงมากกว่าไมรุ่นอื่นๆ
ได้เจอกับไมโครโฟน Shure Beta 58A ตัวนี้เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา 11.00 น. เป็นการได้เป็นเจ้าของไมโครโฟน Shure Beta 58A ครั้งแรก ผมจำวันเวลานั้นได้ดี ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่ามากในการใช้ทำงานด้านดนตรีในตำแหน่งนักร้อง ทำไมผมถึงรักไมโครโฟนตัวนี้
- ร้องแล้วไม่เหนื่อย
- เสียงชัดคมมาก
- คุณภาพเสียงละเอียดมาก
- ทนทาน
- วัสดุเกรด AAA
เพราะไมโครโฟนตัวนี้มีความเจ๋งในหลายๆอย่างที่ไมโครโฟนอื่นทำยาก ราคาในช่วงเมื่อ 3 ปีก่อนจึงแพงมาก ตอนนั้นราคา 13000 บาท ถ้าจำไม่ผิดแต่พอมาเทียบกับงานที่เล่นตามที่ต่างๆ ไมโครโฟนตัวนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆ
สองภาพนี้ผมถ่ายไว้เมื่อสามปีก่อนยังเก็บไว้และรู้สึกว่าการทำงานอะไรก็ตามเครื่องมือดีๆก็มีผลต่อผลงานที่ออกมา หากเทียบกับราคาหมื่นกว่าบาทกับงานที่ผมเล่นและใช้ไมโครโฟนนี้มานับหลายร้อยงาน พอหารดูแล้วต่อครั้ง ผมว่าคุ้มเกินคุ้มมากสำหรับผม เพราะสมัยก่อนที่จะได้ใช้ไมอันนี้ผมใช้ไมโครโฟนตามยะถากรรม จนลืมไปเลยว่าไมโครโฟนก็มีส่วนสำคัญในการร้องเพลงมากมายเลย ทำให้ผมเชื่อว่าเครื่องมือดีๆมีชัยไปกว่าครึ่ง
จากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมได้ทำการเข้าศูนย์แท้ของ SHURE BETA 58A คือ มหาจักร นั่นเอง พอไปถึงที่ตึกสาขาสุขาภิบาล3 ผมเอาไม SHURE BETA 58A ตัวแรกของผมไปด้วยอาการ ไมของผมด้านในคอหักอาการโคม่ามาก จึงไปให้ช่างดู
แต่เราได้พบกับคำตอบจากศูนย์ซ่อมไมโครโฟนมหาจักรพบว่า Shure beta 58A ของผมที่คอหักอาการสาหัสนั้นต้องเปลี่ยน Voice ทั้งชุด รวมค่าช่างแล้วราคา 5700 บาท ……..ผมได้แต่อุทานในใจว่า”เหี้ยแล้วไง!!!!”
แล้วผมก็ถามต่อว่าถ้าซื้อใหม่ราคาเท่าไหร่ครับ เพราะเมื่อสามปีก่อนผมซื้อมาเป็นหมื่นเลยนะครับ คำตอบที่ได้มาคือ ราคของ Shure beta 58A ของผมที่รุ่นใหม่กว่าราคาขายตอนนี้คือ 6100 บาท………..
คำตอบที่ได้จากพนักงานทำให้ผมมีคำตอบในใจสองอย่างในหัวทันทีว่า
“ซ่อมเปลี่ยน Voice ก็ได้ไมโครโฟนเราใช้เหมือนเดิมไม่มีปัญหาอะไร”
“ซื้อใหม่เหอะ..ราคาค่าซ่อมกับซื้อใหม่มันห่างกันไม่กี่บาทเอง ได้ของใหม่ด้วย”
สุดท้ายผมตัดสินใจเลือกที่จะซื้อันใหม่ดีกว่า เพราะราคามันเพิ่มไม่มาก เพราะ Shure beta 58A ตัวแรกของผมผ่านการใช้งานมาหลายปีคงต้องปลดระวางได้แล้ว เหมือนการเริ่มต้นลงทุนในการทำงานที่ดีในสายนักร้องที่มีเครื่องมือดีๆใช้ ต้องขอบคุณไมโคโฟนตัวนี้จริงๆ Shure beta 58A
“จำไว้นะครับ ไมโครโฟนตัวนี้รุ่นนี้ใช้ดีมากเสียงออกมามีคุณภาพเสียงที่ดีมากๆ แต่เวลาพังทำใจไว้เลยว่าต้องซื้อใหม่อย่างเดียว ซ่อมไม่คุ้มแน่นอน”…….บทเรียนจากเรื่องจริงที่ได้เจอ จากนักร้องคนนึงที่ใช้ Shure beta 58A มาสามปีเต็มและใช้อย่างคุ้มค่าจริงๆ